History and Development of the Easter festival.
Easter, a day to day is a gift from the death of Jesus Christ. Falls on a Sunday the word "Easter" which is used for the celebration of the word "EOSTRE" which is the name of the goddess of Spring Tonic Two of them. The god of the Resurrection. Because prior to this season, falling trees, grass, flowers left, but ashes Enough to spring back, it will issue a vibrant flowers bloom again. So the spring. Therefore be comparable to the rise from the dead by Jesus. Today it is called "Easter."
Former Church celebrate Easter on Sunday, do not match up to the year 325 AD Council of Nine Sierra Christian leader or council meetings around the world. And agreed to the course. The Christian world celebrates Easter to match. The date of Easter according to the lunar system. This is because the need to celebrate that Jesus is risen from the dead. Events in the first match really.
Celebrate Easter. Generally runs from dawn of Sunday. Christians will gather at the church or cemetery or in a field of width Or the forest. Singing worship God from the dark. Enough sun gradually Pop music from the horizon "is up" will be loud up He will sing God's grace thanksgiving prayer. And praise God that He is great. Have victory over death. And lives forever.
Then. Describes the rise of the death of Jesus Christ. Encouraging to the Christian life with victory over sin and death stand in faith believing that the Lord. Then most of them will have breakfast together. Done some of it will be fun to play. Remove many of the popular egg painting are the beautiful view and to hide the children. Or young people find enjoyable.
The ancient people in the West. Believed that the egg is a symbol of life. It is getting new life arise. Eggs are being used as a symbol of Easter together. Christians considered. Day that Jesus Christ is risen from the dead. Is the most important day. Is at the heart of the gospel. Because if there is no Easter. Prasert Friday or Christmas Day. Would be meaningless. Because if Jesus was born. And die without an up and coming new He is God dead. Can not help us. But when he was victorious over death. Those who believe there is hope, of course. To be more
Death from life eternal place in heaven with God. Have confidence in eternal life after death. This was recorded in the Bible that After Jesus Christ is risen from the dead. He was to appear in several places among the disciples and the disciples to be with for 40 days has come to heaven amid the witness to 500 people when he said to the disciples to preach the gospel. Until the end of the earth (Matthew 28:18-20).
He promised to stay with them until the end of the Iud. It also promised to get them to come back with him. The disciples went out, so this announcement. Without fear of harm. Some are against torture, homicide was arrested, but they would not stop. To confirm the truth that they believe to be true. The life of a bet more people follow Him day by day, it is more. He established the kingdom of God with love. Even taking his own life. They believe to be true.
ประวัติและพัฒนาการของเทศกาลวันอีสเตอร์
วันอีสเตอร์ ซึ่งเป็นวันระลึกถึงวันเป็นขึ้นมาจากความตายขององค์พระเยซูคริสต์ ตรงกับวันอาทิตย์ คำว่า "อีสเตอร์" ที่นำมาใช้สำหรับการฉลองนั้นมาจากคำว่า "EOSTRE" ซึ่งเป็นชื่อของเทพเจ้าแห่งฤดูใบไม้ผลิตของพวกทูโทนิค เป็นเทพเจ้าแห่งการฟื้นคืนชีพ เพราะก่อนถึงฤดูนี้ ต้นไม้ ใบหญ้า ดอกร่วงหล่นเหลือแต่ซาก พอถึงฤดูใบไม้ผลิมันจะกลับผลิดอกออกใบมีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นฤดูใบไม้ผลิ จึงถูกนำมาเปรียบกับการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูด้วย จึงเรียกวันนี้ว่า "อีสเตอร์"
สมัยก่อน พระศาสนจักรจัดฉลองวันอีสเตอร์ในวันอาทิตย์ที่ไม่ตรงกัน จนถึงปี ค.ศ.325 สภาไนเซียหรือสภาผู้นำชาวคริสต์ทั่วโลกได้ประชุม และมีมติให้กำหนดแน่นอน ให้คริสตชนทั่วโลกฉลองเทศกาลอีสเตอร์ให้ตรงกัน โดยกำหนดวันอีสเตอร์คำนวนตามระบบจันทรคติ ทั้งนี้เนื่องจากต้องการให้การฉลองวันที่พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย ตรงกับเหตุการณ์ในครั้งแรกจริงๆ
การฉลองวันอีสเตอร์ โดยทั่วไปจะเริ่มตั้งแต่เช้ามืดของวันอาทิตย์ คริสตชนจะไปรวมตัวกันที่โบสถ์ หรือที่สุสาน หรือในทุ่งกว้าง หรือตามป่าเขา ร้องเพลงนมัสการพระเจ้าตั้งแต่ยังมืดอยู่ พอดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นจากขอบฟ้า เสียงเพลง "เป็นขึ้นแล้ว" ก็จะดังกระหึ่มขึ้น เขาจะร้องเพลงอธิษฐานโมทนาพระคุณพระเจ้า และสรรเสริญพระองค์ที่ทรงเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ได้มีชัยชนะเหนือความตาย และทรงพระชนม์อยู่เป็นนิตย์
หลังจากนั้นก็ บรรยายถึงการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์ หนุนใจให้คริสตชนดำเนินชีวิตอย่างมีชัย เหนือความบาป และความตาย ยืนหยัดอยู่ในความเชื่อศรัทธาที่มีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า จากนั้นส่วนใหญ่ก็จะรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน เสร็จแล้วบางแห่งก็จะมีการเล่นเกมสนุกๆ หลายๆแห่งนิยมเอาไข่มาระบายสีต่างๆ ให้ดูสวยงาม และนำไปซ่อนให้เด็กๆ หรือหนุ่มสาวค้นหาอย่างสนุกสนาน
คนโบราณในประเทศตะวันตก เชื่อกันว่าไข่เป็นสัญลักษณ์ของชีวิต เพราะกำลังจะมีชีวิตใหม่เกิดขึ้น จึงได้มีการใช้ไข่เป็นสัญลักษณ์ของวันอีสเตอร์กัน คริสตชนถือว่า วันที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย เป็นวันที่สำคัญที่สุด เป็นหัวใจของข่าวประเสริฐ เพราะถ้าไม่มีวันอีสเตอร์ วันคริสต์มาสหรือวันศุกร์ประเสริฐ ก็ไม่มีความหมาย เพราะถ้าพระเยซูเสด็จมาเกิด และสิ้นพระชนม์โดยไม่ได้เป็นขึ้นมาใหม่ พระองค์ก็จะเป็นพระเจ้าที่ตายแล้ว ไม่สามารถช่วยเราได้ แต่เมื่อพระองค์ได้ชัยชนะเหนือความตาย บรรดาผู้เชื่อจึงมีความหวังที่แน่นอน ที่จะเป็นขึ้น
จากความตาย มีชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์สถานกับพระเจ้า ได้มีความมั่นใจในชีวิตนิรันดร์หลังความตาย สิ่งนี้ได้ถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ว่า หลังจากพระเยซูคริสต์เป็นขึ้นมาจากความตาย พระองค์ได้ไปปรากฏในที่ต่างๆ หลายแห่ง ท่ามกลางสาวก และได้อยู่กับสาวกเป็นเวลา 40 วัน จึงได้ เสด็จสู่สวรรค์ท่ามกลางพยานถึง 500 คน เมื่อพระองค์ตรัสสั่งสาวกให้ไปประกาศข่าวประเสริฐ จนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก (มัทธิว 28:18-20)
และพระองค์ทรงสัญญาว่าจะอยู่กับพวกเขาจนกว่าจะสิ้นยุด และยังสัญญาว่าจะกลับมารับพวกเขาไปอยู่กับพระองค์ พวกสาวกจึงได้ออกไปประกาศข่าวนี้ โดยไม่กลัวอันตรายใดๆ บ้างก็ถูกต่อต้าน ถูกจับทรมาน ถูกฆ่าตาย แต่พวกเขาก็ไม่หยุดยั้ง เพื่อยืนยันถึงสัจธรรมที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นความจริง โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ยิ่งนับวัน ผู้คนติดตามพระองค์ก็มีมากขึ้น พระองค์ได้สถาปนาอาณาจักรของพระองค์ด้วยความรัก ที่สละได้แม้ชีวิตของพระองค์เอง ที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นความจริง
Appearance of the Easter agreement usually includes what meaningful fulfillment, triumph and happiness warm, bright images appear on greeting cards for festivals, this is a picture
Garden flowers - which means the media. Happy hopeful.
Butterfly - meaning the ฃe Wikipedia: New. Like a caterpillar coming out of the rumors are covered. And fly upward to the sky as a libertarian free Similar to the Lord Jesus Christ died. And stored in the tunnel after the third day is resurrection. Rabbit - meaning the fertile eggs, which convey to the living.
In greeting cards for Easter. For Christians. Will compliment each other in lines like "asking a blessing of the resurrection is yours."
A gift for this festival. Popular offers shock cattle or incontinence Oval Electric Dolls Chocolate rabbit. , Boiled egg dyeing. Oval or materials made by art.
This year, Easter falls on March 21-22-23 various church starts this season with a night of worship on March 21 to remember the day that Jesus Christ's sacrifice. Him on the cross for Our sins. We call today. Friday, Prasert.
The March 20, some churches are celebrating Easter, or Resurrection Day of Jesus Christ by worship, beginning at 6:00 pm, some churches also held celebrations during Easter. regular worship time.
Traditional eggs hidden place for fun. The fallopian provided typically boiled eggs dyed various colors, beautiful pattern can be drawn. Or made a different art form to a hidden area such as the Church and a member of the Church to find those eggs. Some churches may be rewarding for those who find as many eggs as well.
สัญลักษณ์ของวันอีสเตอร์ มักได้แก่ สิ่งที่สื่อความหมายถึงความสุข สมหวัง ชัยชนะ ความอบอุ่น ความสดใส ภาพที่ปรากฎบนการ์ดอวยพรในเทศกาลนี้ จึงเป็นภาพ
สวนดอกไม้ - ซึ่งสื่อความหมายถึง ความสุขสมหวัง
ผีเสื้อ - สื่อความหมายถึงฃีวิตใหม่ เหมือนตัวดักแด้ที่ออกมาจากเปลือหุ้ม และโบยบินขึนสู่ท้องฟ้าอย่างอิสรเสรี คล้ายกับองค์พระเยซูคริสต์ที่สิ้นพระชนม์ และถูกเก็บไว้ในอุโมงค์ หลังจากนั้น 3 วัน จึงฟื้นคืนพระชนม์
กระต่าย - สื่อความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ และไข่ ซึ่งสื่อความหมายถึงความมีชีวิต
คำอวยพรในการ์ดสำหรับเทศกาลอีสเตอร์ สำหรับคริสตชน จะอวยพรกันในประโยคที่ว่า " ขอให้พระพรแห่งการฟื้นคืนพระชนม์เป็นของคุณ "
ของ ที่ระลึกสำหรับเทศกาลนี้ นิยมมอบช็อกโคเล็ดรูปไข่ หรือ ตุ๊กตาช็อคโกเล็ครูปกระต่าย ,ไข่ต้มย้อมสี หรือวัสดุรูปไข่ที่ประดิษฐ์ด้วยงานศิลป
สำหรับ ในปีนี้เทศกาลอีสเตอร์ตรงกับวันที่ 21-22-23 มีนาคม คริสตจักรต่าง ๆ จะเริ่มต้นเทศกาลนี้ด้วยการนมัสการพระเจ้าในค่ำคืนวันที่ 21 มีนาคม เพื่อระลึกถึงวันที่พระเยซูคริสต์ทรงสละชีวิตของพระองค์บนไม้กางเขนเพื่อ ความผิดบาปของเรา ซึ่งเราเรียกวันนี้ว่า วันศุกร์ประเสริฐ
ส่วน ที่วันที่ 20 มีนาคม บางคริสตจักรมีการเฉลิมฉลองวันอีสเตอร์หรือวันฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู คริสต์ ด้วยการนมัสการพระเจ้าตั้งแต่เวลา 06.00 น. บางคริสตจักรก็จัดเฉลิมฉลองวันอีสเตอร์ในช่วงเวลานมัสการปกติ
เทศกาลอีสเตอร์ จัดขึ้นเพื่อความสนุกสนาน โดยนำไข่ที่จัดเตรียมไว้ซึ่งมักจะเป็นไข่ต้มที่ย้อมสีต่างๆ อย่างสวยงาม อาจจะวาดเป็นลวดลาย หรือประดิษฐ์เป็นงานศิลปแบบต่าง ๆ นำไปซ่อนไว้ตามบริเวณต่างๆ ของคริสตจักร และให้สมาชิกของคริสตจักรหาไข่เหล่านั้น บางคริสตจักรอาจจะมีรางวัลสำหรับผู้ที่หาไข่ได้มากอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น